นักวิทยาศาสตร์การอาหารพัฒนาวิธีทดสอบใหม่ รับมือความท้าทายด้านการรับรองทางพฤกษศาสตร์ เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพและการบริโภคอย่างปลอดภัย

สุขภาพและความแข็งแรงยังคงเป็นประเด็นที่ผู้คนให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความนิยมของผลิตภัณฑ์วีแกนหรือผลิตภัณฑ์จากพืชที่เพิ่มสูงขึ้น ผู้บริโภคจึงได้รับข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และส่วนผสมมากขึ้นกว่าที่เคย และเพื่อเป็นการยืนยันความถูกต้องของข้อมูลบนฉลากผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบแต่ละอย่างจำเป็นต้องถูกระบุอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ใช้ ซึ่งในบรรดาหมวดหมู่ของส่วนผสมเหล่านี้ การระบุส่วนผสมทางพฤกษศาสตร์ หรือที่เรียกว่า การรับรองความถูกต้องทางพฤกษศาสตร์ (Botanical Authentication) มีความซับซ้อนอย่างมาก เนื่องจากความหลากหลายของพันธุ์พืช การตั้งชื่อที่ซ้ำซ้อนกันและความแตกต่างที่เกิดขึ้นจากฤดูกาลและสถานที่เก็บเกี่ยว

การรับรองความถูกต้องทางพฤกษศาสตร์มีความสำคัญอย่างมาก ไม่ใช่แค่การรับประกันคุณภาพ ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จากพืชเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในอุตสาหกรรม การปฏิบัติตามกฎระเบียบ รวมไปถึงความโปร่งใสและการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนส่งผลต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของแบรนด์ ดังนั้น ดร. Zhengfei Lu  Principal Scientist, Molecular Applications ของเฮอร์บาไลฟ์ จึงได้รวบรวมวิธีการรับมือกับท้าทายในการรับรองความถูกต้องทางพฤกษศาสตร์ พร้อมคำแนะนำถึงแบรนด์ที่ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืช

ความซับซ้อนในการรับรองทางพฤกษศาสตร์

การตรวจสอบเอกลักษณ์ทางพฤกษศาสตร์มีความท้าทายเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะการใช้ชื่อสายพันธุ์ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น การติดฉลากผิด อันเป็นผลมาจากความสับสนเกี่ยวกับชื่อของพืช การรวมสายพันธุ์ที่ไม่ใช่วงศ์ตระกูลเดียวกันโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือความยากลำบากในการระบุชนิดพันธุ์ในบางขั้นตอนของการเจริญเติบโตหรือการแปรรูป แต่อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวอาจเกิดขึ้นโดยเจตนาเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือที่เรียกว่า “การปลอมปนเพื่อผลทางเศรษฐกิจ (Economic adulteration)”

การปลอมปนมีได้หลายรูปแบบ โดยรูปแบบหนึ่งที่นิยมคือการผสมสารเจือปนลงไปตามที่ต้องการ ดังนั้นเมื่อพบปัญหาเหล่านี้บ่อย นักวิทยาศาสตร์หลายคนจึงพยายามพัฒนาวิธีการเพื่อปรับปรุงความแม่นยำในการรับรองความถูกต้องของสารจากพืช นำมาสู่การพัฒนาวิธีทดสอบ DNA แบบใหม่ ที่เรียกว่า Tetra-primer ARMS-PCR assay ซึ่งสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับการตรวจหาสารส่วนประกอบเป้าหมายและสิ่งเจือปนอื่นๆ เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่ามีมาตรฐานและคุณภาพที่เคร่งครัด

วิธีการ Tetra-primer ARMS-PCR ได้รับการปรับแต่งให้มีความไวและมีความแม่นยำมากขึ้น

การปรับแต่งวิธีดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นเพื่อพัฒนาความสามารถในการระบุความแตกต่างระหว่างชนิดพันธุ์เป้าหมายและสารเจือปน ตัวอย่างเช่น การใช้รากโสม (Panax ginseng root) ผสมรวมกันกับสารส่วนประกอบที่มีความใกล้เคียงกันอย่างโสมอเมริกัน (Panax quinquefolius) และโสมซานซี หรือ Tianqi (Panax notoginseng) อย่างไรก็ตาม ความไวและความแม่นยำของวิธีการนี้อาจเกิดความน่าสงสัยขึ้นได้ เมื่อใช้ส่วนผสมที่ผ่านการแปรรูป เช่น สารสกัดจากรากโสม หรือโสมแดงที่ถูกนำรากไปนึ่ง

งานวิจัยนี้เกิดขึ้นจากการร่วมมือระหว่างเฮอร์บาไลฟ์และศาสตราจารย์ Pang Chui Shaw จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการแพทย์แผนจีน Li Dak Sum Yip Yio Chin ณ ห้องปฏิบัติการหลักของรัฐด้านการวิจัยเกี่ยวกับฤทธิ์ทางชีวภาพและการประยุกต์ใช้ทางคลินิกของพืชสมุนไพร และ The School of Life Sciences, ที่ มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (The Chinese University of Hong Kong หรือ CUHK) ซึ่งผลการวิจัยนี้ถูกเผยแพร่ในวารสารวิชาการที่ได้รับการประเมินโดยคณะกรรมการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ กลยุทธ์ในการเพิ่มความไวและความแม่นยำของ Tetra-primer ARMS-PCR ได้ผ่านการปรับแต่ง DNA หรือ RNA สายสั้น (Oligo) ที่ได้รับการตีพิมพ์ภายใต้สนธิสัญญาความร่วมมือด้านสิทธิบัตร (PCT) ณ วันที่ 30 มีนาคม 2023 (WO 2023/049708 A1)

โดยสรุป

เมื่อผนวกความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหารเข้ากับการรับรองความถูกต้องทางพฤกษศาสตร์ที่แข็งแกร่งขึ้น ทำให้งานวิจัยนี้เป็นก้าวสำคัญในการรับรองผลิตภัณฑ์จากพืชที่โปร่งใสและปลอดภัย อันเกิดจากการร่วมมือกันของความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย เพื่อรับมือกับความท้าทายในอุตสาหกรรมที่ผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มคำนึงถึงส่วนผสมมากขึ้น ประกอบกับความนิยมของผลิตภัณฑ์จากพืชที่เพิ่มขึ้น ผ่านเทคนิคอย่างTetra-primer ARMS-PCR assay ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนแบรนด์ไปสู่คุณภาพและนวัตกรรมที่แตกต่างและโดดเด่นไม่เหมือนใคร

Facebook Comments Box

About The Author